- รายละเอียด
- ฮิต: 126782

รศ.พญ.จารุพิมพ์ สูงสว่าง
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว หมายถึง ภาวะที่มีความผิดปกติของหัวใจ และ/หรือหลอดเลือดที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ โดยที่ความผิดปกตินั้นๆ ทำให้มีเลือดดำปนอยู่ในเลือดแดงที่ไปเลี้ยงร่างกาย พบได้ประมาณ 15% ของโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ซึ่งพบได้ 8 รายต่อทารกแรกเกิดมีชีวิต 1,000 ราย
โดยทั่วๆ ไปแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. กลุ่มเลือดไปปอดน้อย
2. กลุ่มเลือดไปปอดมาก
- รายละเอียด
- ฮิต: 124064

นพ.วัชระ จามจุรีรักษ์
เป็นกลุ่มอาการของโรคที่ประกอบด้วย ไข้สูง, มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและเยื่อบุผิว (Mucocutaneous involvement) และต่อมน้ำเหลืองที่คอโตเป็นโรคที่พบในเด็กโดยเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 4 ปี
โรคนี้ตรวจพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2504 โดย นายแพทย์ Tomisaku Kawasaki ที่ประเทศญี่ปุ่น และตั้งชื่อว่า Mucocutaneous Lymph Node Syndrome (MCLS) และต่อมาก็พบโรคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรคคาวาซากิ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ค้นพบครั้งแรก
- รายละเอียด
- ฮิต: 74416

ศ.พญ.ดวงมณี เลาหประสิทธิพร
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว(Acyanotic Congenital Heart Diseases) หมายถึง ความผิดปกติในโครงสร้างของระบบหลอดเลือด และ/หรือหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด โดยทั่วไปตั้งแต่ระยะที่อยู่ในครรภ์มารดา ตั้งแต่อายุ 18 วัน จนถึง 2 เดือน ที่มีการสร้างหัวใจและหลอดเลือด มีบางชนิดเกิดในระยะท้ายกว่านี้ และความผิดปกตินี้ไม่ทำให้เลือดดำ (ที่มีปริมาณออกซิเจนต่ำ) จากหัวใจซีกขวามาผสมกับเลือดแดงในหัวใจซีกซ้าย ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายยังคงเป็นเลือดแดง (ที่มีปริมาณออกซิเจนสูง) จึงไม่มีอาการเขียว ความผิดปกติที่พบอาจเกิดที่ผนังกั้นหัวใจมีรู ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท (รั่ว) หรือเปิดไม่กว้างเท่าปกติ (ตีบ) หรือหลอดเลือดตีบ หรือเกินปกติ เป็นต้น
- รายละเอียด
- ฮิต: 66661
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จุล ทิสยากร
เด็กหญิงตุ๊กตา อายุ 11 เดือน ได้รับการเข้าอยู่โรงพยาบาลที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ด้วยอาการหายใจหอบ มารดาของเด็กหญิงตุ๊กตา ให้ประวัติว่า เด็กหญิงตุ๊กตาเป็นเด็กที่แข็งแรงดี และได้รับวัคซีนต่างๆตามที่แพทย์แนะนำ เด็กสบายดีจนกระทั่ง 1 วัน ก่อนมาโรงพยาบาล เด็กเริ่ม มีอาการหายใจเร็วและแรง แต่ไม่มีไข้ การตรวจร่างกายของแพทย์พบว่าอุณหภูมิร่างกาย 36.4oซ อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจเร็วกว่าปกติและเด็กค่อนข้างซึม แพทย์ได้ให้ออกซิเจน แก่เด็กร่วมกับการฉีดยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ หลังจากรับไว้ในโรงพยาบาล 1 ชั่วโมงเด็กมีอาการเลวลง อัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่าเดิม หายใจลำบากมากขึ้นและมีเสียงดัง และเริ่มไม่ค่อยรู้สึกตัว แพทย์ผู้ดูแลจึงได้ขอย้ายเด็กเข้าโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เมื่อเด็กมาถึงห้องไอซียู ของโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ แพทย์พบว่าอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจเร็วกว่าปกติมาก ชีพจรเต้นเบา มือและเท้าเย็น ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและภาพเอ็กซ์เรย์ร่วมกับอาการและการตรวจร่างกาย ทำให้แพทย์วินิจฉัยว่าเด็กผู้ป่วยเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบซึ่งสนับสนุนโดยการตรวจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (echocardiography) แพทย์ได้อธิบายให้บิดามารดาของเด็กผู้ป่วยเข้าใจว่าโรคของผู้ป่วยรุนแรงมาก แม้ว่าแพทย์จะให้การรักษาเต็มที่ เด็กผู้ป่วยก็ยังมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต แพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจและต่อเข้ากับเครื่องช่วยหายใจพร้อมกับให้ออกซิเจน แม้ว่าแพทย์จะได้ให้ยาหลายอย่าง เด็กผู้ป่วยก็ยังคงมีอาการเลวลง และเริ่มมีน้ำเป็นฟองสีชมพูในท่อช่วยหายใจ ซึ่งบ่งบอกว่าเด็กผู้ป่วยกำลังมีภาวะปอดบวมน้ำจากหัวใจห้องล่างซ้ายล้มเหลวอย่างมาก แพทย์ได้พยายามช่วยเด็กผู้ป่วยอย่างเต็มที่แต่หัวใจของเด็กผู้ป่วยก็ค่อยๆเต้นช้าลงๆจนกระทั่งหยุดเต้นไปแม้ว่าแพทย์จะได้ให้ยาอีกหลายตัว รวมเวลาที่เด็กผู้ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯเพียง 2 ชั่วโมง และรวมเวลาตั้งแต่เด็กเริ่มมีอาการของการเจ็บป่วยจนกระทั่งเสียชีวิตไม่ถึงสองวันเต็ม
ผลการตรวจศพยืนยันว่าแพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง คือเด็กผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อเสียหายไปเกือบหมดจนหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปรับออกซิเจนที่ปอดและไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ จนเด็กผู้ป่วยเกิดอาการภาวะปอดบวมน้ำและภาวะช็อคจากความล้มเหลวของกล้ามเนื้อหัวใจ